บริการแนะแนว
ความหมายของการแนะแนว
การแนะแนว มาจากคำในภาษาอังกฤษว่า Guidance มีความหมายต่างจากคำว่า การแนะนำ Advice
และต่างจากคำว่า การช่วยเหลือด้วยการสังเคราะห์ Aid or
assistance มีผู้ให้ความหมายของการแนะนำไว้ดังนี้ การแนะแนว หมายถึง
กระบวนการทางการศึกษาที่ช่วยให้ บุคคลรู้จัก และเข้าใจตนเองและสิ่งแวดล้อม สามารถนำตนเองได้
แก้ปัญหาได้ด้วยตนเอง และพัฒนาตนเองได้ตามศักยภาพ ปฏิบัติตนให้เป็นสมาชิกที่ดีของสังคมการแนะแนวไม่ใช่การแนะนำ
อาจกล่าวได้ว่าการแนะแนวเป็นการช่วยเหลือ ให้เขาสามารถช่วยตนเองได้
ความสำคัญของการแนะแนว
จุดหมายของการแนะแนว คือการป้องกันปัญหา แก้ไขพฤติกรรมทุกอย่างที่ผิดปกติและการพัฒนาให้ทุกคนไปสู่จุดหมายของชีวิตที่ต้องการ
การแนะแนวจะช่วยให้ครูเข้าเด็กยิ่งขึ้น ครูเข้าใจลักษณะการเจริญเติบโตของเด็กดีขึ้น
เข้าใจความต้องการของเด็ก เข้าใจความแตกต่างระหว่างบุคคล จัดกลุ่มเรียน จัดกิจกรรมการเรียนการสอนและกิจกรรมอื่น
ๆ ให้แก่เด็กได้เหมาะสมยิ่งขึ้น ครูกับผู้ปกครองมีการประสานงานกัน เพื่อความสัมพันธภาพที่ดีระหว่างบ้านกับโรงเรียน
ผู้เรียนบรรลุถึงจุดมุ่งหมายปลายทางของหลักสูตรที่กำหนด ช่วยโรงเรียนได้นำแหล่งวิทยาการในท้องถิ่นมาใช้ให้เกิดประโยชน์
แต่แนะแนวของโรงเรียนจะเกิดประสิทธิภาพเพียงใดขึ้นอยู่กับครูผู้ทำหน้าที่แนะแนวที่จะเข้าใจบทบาทของตนเองและกำหนดแนวทางปฏิบัติที่เหมาะสม
นักเรียนจะได้รับประโยชน์ในการจัดบริการแนะแนวได้อย่างเต็มที่
ประโยชน์ที่จะได้รับจากบริการแนะแนว
1.ประโยชน์แก่ผู้ปกครองหรือบิดามารดา
1.1 ได้รับรู้และเข้าใจสถานภาพทางการเรียนของบุตรหลานของท่าน
เมื่อท่านได้มีโอกาสปรึกษาหารือกับครูแนะแนว
1.2 ได้รับข้อมูลเกี่ยวกับโอกาสที่บุตรหลานของท่านจะได้เรียนต่อหรือออกไปประกอบอาชีพ
1.3 รับรู้และเข้าใจสภาพปัญหาของเด็กวัยรุ่นเพื่อจะได้ให้ความร่วมมือกับโรงเรียนในการปรับปรุงพฤติกรรมของบุตรหลานของท่านต่อไป
2.ประโยชน์ต่อนักเรียน
2.1 ช่วยให้นักเรียนรู้จักตนเองดีขึ้นและสามารถปรับปรุงตนเองในด้านการเรียน
สังคมอารมณ์และสติปัญญา
2.2 ช่วยให้นักเรียนตัดสินใจได้ด้วยตนเองอย่างฉลาดและมีเหตุผล
2.3 ช่วยให้นักเรียนเข้าใจสาเหตุของปัญหาและวิธีแก้ปัญหาเพื่อสามารถดำเนินชีวิตอย่างมีจุดมุ่งหมายและอยู่ใสังคมอย่างมีความสุข
3.ประโยชน์แก่ครู
3.1 ช่วยครูให้เข้าใจถึงปัญหาและสาเหตุของปัญหารวมทั้งหาวิธีแก้ปัญหานั้น
3.2 ช่วยครูในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนให้สอดคล้องกับความต้องการและความสนใจของนักเรียน
3.3 ช่วยครูในการศึกษานักเรียนทำให้รู้จักนักเรียนดีขึ้น
4.ประโยชน์แก่โรงเรียน
4.1 ช่วยโรงเรียนในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนให้สอดคล้องกับความต้องการและความสนใจของนักเรียน
4.2 ช่วยลดปัญหาต่าง ๆ เช่นปัญหานักเรียนเรียนไม่จบหลักสูตร
หรือปัญหานักเรียนเรียนอ่อน หรือหนีเรียน เป็นต้น
หน้าที่และหลักการแนะแนว
หน้าที่และหลักการแนะแนวสำคัญ ๆ ที่ต้องคำนึงถึงในการปฏิบัติงานแนะแนว มีดังนี้
1.การให้บริการแนะแนวต้องยึดปรัชญาการแนะแนว
เช่น บุคคลแต่ละคนย่อมมีความแตกต่างกันทั้งร่างกาย อารมณ์ สังคมและสติปัญญา ความสนใจ
ความสามารถ ความถนัดและเจตคติ
2.จัดบริการให้ครอบคลุมและเป็นระบบต่อเนื่องกัน
เช่น การจัดบริการแนะแนวในโรงเรียนต้องจัดจัดให้ครอบคลุมขอบข่ายทั้ง 3 ด้าน และบริการ 5 บริการ
3. การแนะแนวในโรงเรียนจัดบริการให้แก่นักเรียนทุกคน
ไม่ใช่จัดให้เฉพาะนักเรียนที่มีปัญหาเท่านั้น แต่ส่งเสริมพัฒนากรณีที่นักเรียนมีคุณลักษณะที่พึ่งประสงค์อยุ่แล้ว
4.การแนะแนวต้องคำนึงถึงปรัชญาของการแนะแนวที่เน้นความแตกต่างระหว่างบุคคล
5.การแนะแนวเป็นกระบวนการทำงานที่ต้องอาศัยความร่วมมือจากหลาย
ๆ ฝ่าย ทั้งจากบุคคลภายนอก-ในของโรงเรียน
ขอบข่ายการแนะแนว
การแนะแนวมีขอบข่ายสาระสำคัญ 3 ด้าน คือ
1.การแนะแนวการศึกษา
มุ่งหวังให้ผู้เรียนพัฒนาการเรียนได้เต็มศักยภาพ รู้จักแสวงหาความรู้ และวางแผนการเรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สามารถปรับตัวด้านการเรียนและมีนิสัยใฝ่รู้ใฝ่เรียน
2.การแนะแนวอาชีพ มุ่งหวังให้ผู้เรียนได้รู้จักตนเองและโลกของงานอย่างหลากหลาย
มีเจตคติและนิสัยที่ดีในการทำงาน มีโอกาสได้รับประสบการณ์ และฝึกงานตามความถนัด ความสนใจ
3.การแนะแนวส่วนตัวและอาชีพ
การแนะแนวส่วนตัวและสังคมเป็นการช่วยเหลือให้มีชีวิต หรือความเป็นอยู่อย่างสมบูรณ์
มีความเจริญทั้งร่างกายและจิตใจ มีความเข้าใจตนเอง มีอารมณ์ที่มั่นคง มีความสามารถที่ปรับตัวให้เข้ากับสังคมร่วมกันอย่างมีความสุข
รู้จักบำเพ็ญตนให้เป็นประโยชน์ต่อตนเองและผู้อื่นหรือสังคมได้ มีความสามารถในการเป็นผู้นำและผู้ตามที่ดี
มีบุคลิกภาพที่เหมาะสม รู้จักใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ นอกจากนี้ทำให้การศึกษามีการพัฒนาตนเองเพื่อเตรียมความพร้อมที่จะไม่เป็นบุคคลที่จะต้องดำเนินชีวิตด้วยตนเอง
บริการแนะแนวที่จัดขึ้นในสถานศึกษา
1. บริการศึกษาเด็กเป็นรายบุคคล
2. บริการสนเทศ
3. บริการให้คำปรึกษา
4. บริการจัดวางตัวบุคคล
5. บริการติดตามผลและวิจัย
1.บริการศึกษาเด็กเป็นรายบุคคล
(Individual Inventory Service)
บริการศึกษาเด็กเป็นรายบุคคล เป็นบริการอันดับแรกของบริการแนะแนวเป็นบริการที่ทำให้ผู้แนะแนวและครูสามารถรู้จักนักเรียนเป็นรายบุคคล
ช่วยให้ผู้แนะแนวสามารถรู้จักนักเรียนมากยิ่งขึ้น และสามารถหาทางช่วยเหลือได้ถูกต้องยิ่งขึ้นการศึกษาและสำรวจนักเรียนเป็นรายบุคคล
ช่วยให้ผู้มีหน้าที่เกี่ยวข้องกับการแนะแนว เช่น ผู้บริหาร ครู แนะแนว ครู รวมทั้งบิดามารดาหรือผู้เกี่ยวข้องสามารถรู้จักและเข้าใจนักเรียนได้อย่างดีการศึกษาเด็กเป็นรายบุคคล
ประกอบไปด้วยหลักเกณฑ์ที่สำคัญคือ “การรวบรวมข้อมูล”
การที่จะสามารถรวบรวมข้อมูลได้ต้องมีหลัก
ดังนี้
1. ข้อมูลที่ได้ต้องเป็นข้อมูลที่ชัดเจน
สามารถเข้าใจง่าย
2. ข้อมูลที่จัดหาต้องตรงตามความเป็นจริง
และเป็นข้อมูลที่สรรหามาอย่างดี
3. เป็นข้อมูลที่เป็นปัจจุบัน
เท่าทันเหตุการณ์ ไม่ล้าสมัย
4. เมื่อได้ข้อมูลหลาย ๆ
อย่างแล้ว ต้องเก็บรวบรวมเข้าด้วยกันจัดให้เข้าพวกเข้าหมูอย่างมีระเบียบ
5. ข้อมูลที่ได้ต้องเก็บเข้าแฟ้มให้เรียบร้อย
เพื่อจะได้สามารถค้นหาได้ง่ายและสามารถนำมาใช้ได้รวดเร็วเมื่อต้องการจะใช้
2.บริการสนเทศ (Information
Service)
บริการสนเทศให้ความรู้ ข่าวสารต่าง
ๆ ทั้งทางด้านการศึกษา การเลือกอาชีพ และการปรับตัวเข้ากับสังคมบริการสนเทศ จะให้ความรู้ข่าวสารนอกเหนือจากการเรียน
ช่วยให้นักเรียนมีความรู้เพิ่มเติมมากขึ้นบริการสนเทศ นอกจากจะให้ข้อมูลต่าง ๆ เกี่ยวกับนักเรียนแล้ว
ยังจะช่วยกระตุ้นให้นักเรียนสนใจที่จะวางแผนการในชีวิต และวางจุดประสงค์ที่จะช่วยสร้างทัศนคติที่ดีต่ออาชีพต่าง
ๆ รู้จักทำงานร่วมกับผู้อื่นและสนใจในการปฏิบัติงานนอกจากนั้น บริการสนเทศยังส่งเสริมให้นักเรียนมีความรู้ความเข้าใจเรื่องต่าง
ๆ อย่างถูกต้องและเป็นไปตามหลักของธรรมชาติ
บริการสนเทศ แบ่งออกเป็น 3 ประเภทคือ
1. บริการสนเทศทางการศึกษา
(Educational Information)
2. บริการสนเทศทางอาชีพ
(Occupational Information)
3. บริการสนเทศทางด้านส่วนตัวและสังคม
(Personal Information)
3.บริการให้คำปรึกษา (Counseling
Service)
บริการให้คำปรึกษานับว่าเป็น “หัวใจของบริการแนะแนว” ซึ่งถือว่าเป็นบริการที่สำคัญที่สุดในบริการแนะแนว
การบริการแนะแนวที่จัดขึ้นในสถานศึกษาจะขาดบริการให้คำปรึกษาเสียมิได้บริการให้คำปรึกษา
จึงเป็นบริการที่ทุกคนรู้จักดีบางครั้งมีผู้สับสนว่าบริการแนะแนวก็คือ บริการให้คำ
ปรึกษานั่นเองทั้งนี้เพราะบริการแนะแนวจะจัดบริการให้คำปรึกษาอย่างเป็นทางการ ซึ่งสามารถมองเห็นได้ชัดเจนกว่าบริการอื่น
ๆ ความจริงแล้วการบริการให้คำปรึกษานั้นเป็นบริการหนึ่งของบริการแนะแนว
4.บริการจัดวางตัวบุคคล
(Placement Service)
การจัดวางตัวบุคคลเป็นบริการที่เกี่ยวข้องกับบริการต่าง
ๆ ข้างต้น เป็นการวางตัวบุคคลให้เหมาะสมกับงานตามที่คัดเลือก เป็นบริการที่ช่วยให้บุคคลได้เรียนตามวิชาที่ตนเองชอบ
ช่วยให้มีโอกาสเรียนและประกอบอาชีพตรงตามความสามารถ ของตนเอง เป็นบริการที่จัดขึ้นช่วยเหลือนักเรียนทั้งที่ยังศึกษาอยู่ในโรงเรียนและสำเร็จการศึกษาไปแล้ว
5.บริการติดตามผลและวิจัย
(Follow-up Service)
บริการติดตามผล เป็นบริการสุดท้ายของบริการแนะแนว
เป็นการติดตามดูว่าการจัดบริการต่าง ๆ ที่ได้ดำเนินไปแล้วนั้น ได้ผลมากน้อยเพียงใด
นักเรียนที่ออกจากโรงเรียนไปแล้วนั้นทั้งจบการศึกษาและยังไม่จบการศึกษาประสบปัญหาอะไรบ้าง
รวมทั้งการติดตามผลดูนักเรียนที่ยังศึกษาอยู่ในโรงเรียนและจบการศึกษาไปแล้วว่าประสบผลสำเร็จในการแก้ไขปัญหาหรือไม่
วิธีการติดตามผล อาจทำได้ดังนี้
1. การสัมภาษณ์นักเรียนด้วยตนเอง
เพื่อจะได้ทราบถึงผลของการช่วยเหลือว่าประสบความสำเร็จหรือไม่เพียงใด
2. การสัมภาษณ์บุคคลที่อยู่ใกล้ชิดนักเรียน
เช่น เพื่อนนักเรียน เพื่อนบ้าน ญาติพี่น้อง บิดามารดา เพื่อทราบถึงผลของการบริการ
3. การส่งแบบสอบถามไปยังนักเรียนที่จบการศึกษาไปแล้ว
หรือนักเรียนในโรงเรียนกรอรแบบสอบถาม เพื่อจะได้ทราบผลของการให้บริการ
สมาชิกผู้จัดทำคะ :)
คิง ครีม อาย ออม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น